สงครามในตะวันออกกลางทำบริษัทค้าอาวุธสหรัฐมีกำไรเพิ่มขึ้น ซีอีโอ Raytheon เชื่อความยุ่งเหยิงจะยังคงอยู่ต่อไป

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

สงครามในตะวันออกกลางทั้งซีเรีย-อิรักและเยเมนทำให้บริษัทค้าอาวุธในสหรัฐมีความคาดหวังว่าจะมีกำไรเพิ่มขึ้น ตะวันออกกลางทุกประเทศต้องการอาวุธป้องกันตัว เชื่อความยุ่งเหยิงยังไม่จบง่ายๆ เผยปีงบประมาณ 2016 สหรัฐใช้งบกลาโหม 607 พันล้านดอลลาร์

เมื่อวันที่ 4 ธันวาคม 2558 เว็บไซต์ The Intercept รายงานโดยผู้สื่อข่าว Lee Fang และ Zaid Jilani  เปิดเผยว่าบริษัทผลิตอาวุธรายใหญ่อาทิเช่น Raytheon, Oshkosh,และ Lockheed Martin ประกาศให้การรับรองต่อผู้ลงทุนในหุ้นของบริษัทว่าความขัดแย้งและสงครามในตะวันออกกลางทำให้ผลกำไรของบริษัทเพิ่มขึ้น ทั้งนี้จากการจัดประชุม Third Annual Industrials Conference  จัดโดย Credit Suisse ที่เมืองเวสต์ พาล์ม บีช รัฐฟลอริด้าเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา 

 

นายบรูซ แทนเนอร์ รองประธานบริหารบริษัทล็อคฮีท มาร์ตินแถลงต่อที่ประชุมว่าบริษัทมี “ผลประโยชน์ทางอ้อม” (indirect benefits)จากสงครามในซีเรีย โดยเแพาะอย่างยิ่งเมื่อเร็วๆนี้ที่เครื่องบินรบของตุรกียิงเครื่องบินทิ้งระเบิดรัสเซียตก

 

นายแทนเนอร์เปิดเผยว่าเหตุดังกล่าว ทำให้สหรัฐเสี่ยงต่อการปฏิบัติการในภูมิภาคจึงทำให้สภาะแวดล้อมเปลี่ยนไปนั่นหมายถึงว่าผลิตภัณฑ์ของบริษัทจะเข้าไปมีส่วนร่วม  และการที่รัสเซียส่งกำลังทางอากาศเข้าไปร่วมรบในซีเรียก็จะทำให้เครื่องบินรบที่ผลิตโดยบริษัทเช่น F-22s และ F-35 มีความต้องการมากขึ้น  

 

นายแทนเนอร์ยังเปิดเผยอีกว่าไม่เพียงแต่เครื่องบินเท่านั้นขีปนาวุธต่างๆก็มีความต้องการเพิ่มขึ้น อีกทั้งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และซาอุดิ อาระเบียก็ต้องการเพิ่มเพราะทำสงครามในประเทศเยเมน 

 

ทางด้านนายวิลสัน โจนส์ ประธานบริษัทผลิตอาวุธ Oshkosh กล่าวต่อที่ประชุมว่าตราบใดที่ยังได้รับการคุกคามจากกลุ่มไอซิส มีหลายประเทศที่ต้องการรถติดอาวุธ  M-ATV ที่บริษัทผลิตเพราะหลายประเทศจะเพิ่มอุปกรณ์และบยานพาหนะเพื่อการสู้รบให้กับกองกำลังทหารราบของตน

 

นายทอม เคนเนดี ซีอีโอบริษัท Raytheon เปิดเผยในทำนองเดียวกันต่อที่ประชุมระบุว่าความต้องการอาวุธสู้รบนั้นเพิ่มขึ้นอย่างสำคัญกับทกประเทศในตะวันออกกลาง  พร้อมกับเปิดเผยว่าาได้พบกับกษัตริย์ซัลมานแห่งซาอุดิ อาระเบีย “ความยุ่งเหยิง(ในภูมิภาค)จะดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่เยเมน,ไม่ว่าจะเกิดขึ้นกับกลุ่มฮูทิส หรือไม่ว่าจะเกิดขึ้นในซีเรียและในอิรักกับกลุ่มไอซิสก็ตาม” 

 

อย่างไรก็ตามนับเป็นข่าวดีของบริษัทผู้ผลิตอาวุธที่ล่าสุดสภาคองเกรสหรัฐได้อนุมัติงบกลาโหม 607 พันล้านดอลลาร์หรือตัดไปเพียง 5 พันล้านดอลลาร์จากที่เพนตากอนขอไป นิตยสาร DefenseNews เรียกงบประมาณก้อนนี้ว่าเป็นการเยียวยาอุตสาหกรรมผลิตอาวุธได้เป็นอย่างดี 

 

นายแทนเนอร์กล่าวต่อที่ประชุมว่าโครงการผลิตอาวุธของเราได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดี “เราคิดว่าเราทำได้ดีทีเดียว” 

 

บริษัท Lockheed Martin  เป็นบริษัทอเมริกันด้านผลิตอากาศยาน,ยุทโธปกรณ์,ระบบป้องกันความปลอดภัยมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมือง Bethesda, รัฐแมรี่แลนด์และวอชิงตันดีซี แอเรีย บริษัทจ้างงานคนทั่วโลก 112,000 คน (กุมภาพันธ์ 2015) ยอดขายปีงบประมาณ 2014 รวม 45.6 พันล้านดอลลาร์  มีรายได้จากการดำเนินงาน 5.592 พันล้านดอลลาร์  กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 3.614 พันล้านดอลลาร์

 

บริษัท Raytheon Company  เป็นบริษัทรับเหมาด้านกลาโหมขนาดใหญ่ของสหรัฐ เป็นผู้ผลิตอาวุธ,ยุทโธปกรณ์ทางทหารและผลิตเครื่องอิเลคทรอนิกทางพาณิชย์  เป็นบริษัทเชี่ยวชาญด้านการผลิตจรวดนำวิถี (guided missiles) ยอดขายปี 2013 รวม 23.706 พันล้านดอลลาร์ กำไรสุทธิ 1.996 พันล้านดอลลาร์ จ้างงาน 63,000 คนทั่วโลก (ตัวเลขเดือนมีนาคม 2014)

 

บริษัท Oshkosh Corporation เดิมชื่อบริษัท Oshkosh Truck เป็นบริษัทอเมริกันทำธุรกิจออกแบบและก่อสร้างรถบรรทุกชนิดพิเศษ,รถทหาร, ตัวถึงรถบรรทุก,ระบบรถดับเพลิงสนามบิน,และยังมีบริษัทในเครือ Pierce Mfg.,เป็นหนึ่งในบริษัทของทวีปอเมริกาเหนือที่มีชื่อเสียงในการสร้างรถดับเพลิง บริษัทตั้งอยู่ที่เมือง  Oshkosh รัฐวิสคอนซิน จ้างงานคนทั่วโลก 12,000 คน ปีงบประมาณ 2014 มียอดขาย 6.81 พันล้านดอลลาร์ กำไรจากการดำเนินงาน 503.3 ล้านดอลลาร์ และกำไรสุทธิลดลง 309.3 ล้านดอลลาร์    

 

ที่มา : ไทยทรีบูน