อุตุนิยมวิทยาเตือนเหนือ-อีสานมีฝนและลมแรงถึง 27 ม.ค.อากาศหนาวเย็นลงทั่วประเทศ

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

 

เมื่อวันที่ 24 มกราคม 2559 เวลา 05.00 น.กรมอุตุนิยมวิทยาออกรายงานว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังแรงจากประเทศจีนแผ่ลงมาปกคลุมถึงภาคตะวันออกเฉียง เหนือแล้ว และจะแผ่เข้าปกคลุมบริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคตะวันออก ในวันนี้

 

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีอากาศแปรปรวน โดยมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมแรงเกิดขึ้น และอากาศจะหนาวเย็นลงอย่างรวดเร็ว และอุณหภูมิจะลดลง 6-10 องศาเซลเซียส

 

สำหรับการคาดการณ์อุณหภูมิต่ำสุดตามภาคต่างๆ ในช่วงวันที่ 24-25 มกราคม 2559 จะมีดังนี้

 

ภาคเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-14 องศาเซลเซียส ส่วนบริเวณยอดดอยจะมีน้ำค้างแข็งบางพื้นที่

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อุณหภูมิต่ำสุด 8-15 องศาเซลเซียส

 

ภาคกลางและภาคตะวันออก อุณหภูมิต่ำสุด 14-18 องศาเซลเซียส

 

กรุงเทพมหานครและปริมลฑล อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส

 

หลังจากนั้นในช่วงวันที่ 26-27 มกราคม 2559 จะมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ซึ่งจะส่งผลให้บริเวณดังกล่าวจะมีฝนเกิดขึ้นและยังคงมีอากาศหนาวเย็นต่อไปอีก ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากอากาศที่เปลี่ยนแปลงและหนาวเย็นลง

 

สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยจะมีกำลังแรง ทำให้บริเวณภาคใต้มีฝนเพิ่มขึ้นและมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนบริเวณอ่าวไทยจะมีคลื่นสูง 2-3 เมตร ขอให้ประชาชนที่อาศัยบริเวณชายฝั่งระวังอันตรายจากคลื่นลมแรงที่ซัดเข้าหาฝั่ง ส่วนชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และเรือเล็กควรงดออกจากฝั่งในช่วงวันที่ 24-27 มกราคม 2559 ไว้ด้วย

 

พยากรณ์อากาศประจำวัน

 

พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันที่ 24 มกราคม ถึง 06:00 วันที่ 25 มกราคม

 

ภาคเหนือ      มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเชียงราย น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์

 

อากาศหนาว อุณหภูมิจะลดลง 6-10 องศาเซลเซียส

 

อุณหภูมิต่ำสุด 12-16 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 20-25 องศาเซลเซียส

 

สำหรับบริเวณยอดดอยอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ   อากาศหนาวกับมีลมแรง อุณหภูมิจะลดลง 2-3 องศาเซลเซียส  กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดขอนแก่น ชัยภูมิ และนครราชสีมา

 

อุณหภูมิต่ำสุด 12-15 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 18-24 องศาเซลเซียส

 

สำหรับบริเวณยอดภูอากาศหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 4-8 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

 

ภาคกลาง       มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครสวรรค์ ลพบุรี สระบุรี และพระนครศรีอยุธยา

 

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส

 

อุณหภูมิต่ำสุด 16-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 25-30 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

ภาคตะวันออก          มีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 30 ของพื้นที่

 

ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครนายก ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี และสระแก้ว

 

อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส

 

อุณหภูมิต่ำสุด 17-18 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 27-30 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

 

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูง 2-3 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีเมฆเป็นส่วนมาก กับมีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่งบริเวณจังหวัดพัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

 

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

 

อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

 

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร

 

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน กับมีฝนฟ้าคะนองเป็นแห่งๆ ร้อยละ 20 ของพื้นที่  ส่วนมากบริเวณจังหวัดกระบี่ ตรัง และสตูล

 

อุณหภูมิต่ำสุด 21-24 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออก ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

 

กรุงเทพมหานครและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนองกระจาย ร้อยละ 40 ของพื้นที่

 

อากาศเย็น อุณหภูมิจะลดลง 6-8 องศาเซลเซียส

 

อุณหภูมิต่ำสุด 18-20 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-31 องศาเซลเซียส

 

ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

 

เตือนเกษตรกร-สัตว์เลี้ยง

 

* ระยะนี้ยังคงมีอากาศหนาวเย็นอย่างต่อเนื่อง และในช่วงวันที่ 23 – 28 ม.ค. อุณหภูมิจะลดลงอย่างรวดเร็ว เกษตรกรควรรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และให้ความอบอุ่นกับร่างกายอย่างเพียงพอเพื่อป้องกันการเจ็บป่วย

 

* ช่วงที่อุณหภูมิลดลงมาก จะทำให้อุณภูมิน้ำลดต่ำลงอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้สัตว์น้ำโดยเฉพาะปลา ปรับตัวไม่ทันและน็อกน้ำตายได้ หากโตได้ขนาด ควรจับขายเพื่อลดความเสี่ยง นอกจากนี้ควรเปิดเครื่องตีน้ำ เพื่อปรับอุณหภูมิน้ำและเป็นการเพิ่มออกซิเจนในน้ำ รวมทั้งลดปริมาณอาหารลง เนื่องจากอุณหภูมิต่ำ ปลาจะกินอาหารได้น้อย อาหารที่เหลือจะทำให้น้ำเน่าเสีย ทำให้ปลาอ่อนแอและเป็นโรคได้ง่าย

 

* ส่วนผู้ที่เลี้ยงสัตว์ควรเพิ่มความอบอุ่นภายในโรงเรือน ให้แก่สัตว์เลี้ยงโดยเฉพาะสัตว์ปีก เพื่อป้องกันสัตว์หนาวเย็น จนอ่อนแอ และเป็นโรคได้ง่าย

 

* ในช่วงวันที่ 24 – 27 ม.ค. จะมีฝนฟ้าคะนองกับมีลมกระโชกแรง เกษตรกรควรระวัง และป้องกันความเสียหายที่จะเกิดกับทรัพย์สิน อาคารบ้านเรือน และพืชผลทางการเกษตร

 

ที่มา-ไทยทริบูน