รู้ผลขึ้นภาษีเหล็ก เม.ย.

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

ข่าวสารด้านบัญชีและภาษีอากร

นายวันชัย วราวิทย์ รองอธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ขณะนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯยังไม่ได้ประกาศอย่างเป็นทางการจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก และอะลูมิเนียมที่นำเข้าจากทั่วโลก รวมถึงไทย แต่อยู่ระหว่างการพิจารณาตามที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯเสนอ “หลังจากกระทรวงพาณิชย์ เปิดไต่สวน เพื่อให้ประธานาธิบดีใช้อำนาจตามมาตรา 232 กฎหมายการค้า ที่ว่าด้วยการปกป้องการนำเข้าสินค้า ที่ก่อให้เกิดความไม่มั่นคง หรือเป็นภัยคุกคามต่อชาติ โดยเสนอให้ประธานาธิบดีขึ้นภาษี และกำหนดโควตานำเข้าเหล็ก และอะลูมิเนียมไปแล้วนั้น ประธานาธิบดีจะมีเวลาพิจารณาตามข้อเสนอ 90 วัน คาดจะประกาศผลการพิจารณาสำหรับเหล็กวันที่ 11 เม.ย.นี้ และสินค้าอะลูมิเนียมวันที่ 19 เม.ย.นี้”
อย่างไรก็ตาม หากประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจใช้มาตรา 232 จะทำให้ผู้ผลิตและผู้ส่งออกไทย ได้รับผลกระทบอย่างมาก เพราะหากถูกเรียกเก็บอากรเพิ่ม จะทำให้ราคานำเข้าสินค้าไทยเพิ่มขึ้น ล่าสุด กรมฯได้ประสานกับภาคเอกชนไทย เพื่อแสดงความคิดเห็นต่อกระทรวงพาณิชย์สหรัฐฯแล้ว และจะดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายกรกต ผดุงจิตต์ เลขาธิการกลุ่มอุตสาหกรรมเหล็ก สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวถึงกรณีที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ จะเรียกเก็บภาษีนำเข้าเหล็ก 25% และอะลูมิเนียม 10% ว่า กลุ่มเหล็กฯได้ส่งข้อมูลให้กระทรวงพาณิชย์ เพื่อประกอบการตัดสินใจแล้ว หากสหรัฐฯขึ้นภาษีจริง จะกระทบอุตสาหกรรมเหล็กทั้งทางตรงและทางอ้อม โดยทางตรง ไทยอาจเสียโอกาสการส่งออกเหล็กไปสหรัฐฯ 383,496 ตันต่อปี มูลค่า 10,479 ล้านบาท และทางอ้อมคือ เหล็กจากทั่วโลกจะทะลักเข้ามาไทย เพราะจะมีปริมาณเหล็ก ที่ไม่สามารถเข้าตลาดสหรัฐฯได้ 27 ล้านตัน ผู้ผลิตสำคัญของโลก ต้องหาทางส่งออกไปประเทศอื่นๆ โดยเฉพาะอาเซียน และไทย ที่มีการใช้มาก.

ที่มา : thairath